วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

เห็นแล้วคุณคิดอย่างไร

เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว อากาศช่างไม่ดีเสียจริง ป่านนี้ ยังมีหิมะตกอีก ตอนนี้ที่นี่ จะไปไหนก็น่ากลัว โดยเฉพาะวันที่ฝนตก หิมะตก มันอาจจะมีของแปลกปลอม ที่มาจากโรงงานไฟฟ้ากัมมันตภาพรังสี ปนมา แต่จะอยู่บ้านก็เปลืองไฟ เพราะว่า หนาว เรานั้น
หน้าหนาว เลือกที่จะไปองเซน
เพราะว่า ที่นั่นอุ่น ได้นั่ง นอน อ่านหนังสือ สบายหน่อย ประหยัดเราด้วย วันนั้น นั่งตรง ที่นั่งใกล้ถังกดน้ำดื่ม คือจะมีน้ำเปล่าเย็น เปล่าร้อน น้ำชาเขียวร้อน ไว้ให้บริการตัวเอง และแล้วก็ต้องประหลาดใจ

ชายอายุสักสี่สิบ มายืนกรอกน้ำใส่ขวด
ไม่ธรรมดานะคะ เอากรวยมาด้วย ไม่เคยเห็นมาก่อน นึกเลยถ้าเป็นคนที่บ้านเรา เราคงจะรังเกียจ ประหยัดอะไรขนาดนั้น คุณเขากรอกน้ำแล้ว หนึ่งขวด แล้ว ต่ออีกขวด เอ้ย อะไรกันนี่ เสร็จแล้ว กลับไปที่โต๊ะ (มาคนเดียว) เอาขวดใหม่มากรอกอีกขวด ไม่หมดเท่านี้ ยังไม่เต็ม ยังกดใส่ฝา แล้ว เอาไปกรอกต่อในขวด ให้เต็มปริบ

เลยหันไปดู คนอื่นบ้าง เขาก็มองกันเป็นตาเดียว กับ เรานั่นแหล่ะ คุณแม่ที่บ้านก็บอก เฮ้ย นั่นอะไร กรอกน้ำเสร็จแล้ว เธอก็กดน้ำดื่ม อึกๆ อึกๆ แล้ว ก็จัดแจง เก็บข้าวของกลับบ้าน

คุณแม่ ก็คิดต่ออีกนั่นแหล่ะ หรือว่า ภรรยาที่บ้านเธอ ใช้มา ให้เอาน้ำไปให้ลูก ก็เป็นได้ เออ คิดได้เหมือนกัน มีทางเป็นไปได้เหมือนกัน เพราะว่าทุกซุปเปอร์ น้ำหมด ไม่ว่าจะขวดใหญ่ ขวดเล็ก หมด ค่ะ ไม่ใช่คนเขาเอาไปตุนกันหรอกนะคะ
ข่าวเขาบอกว่า ส่งไปให้คนที่กำลังลำบาก
เพราะว่า น้ำใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ
ตกเย็นลองไปดูแถว ร้านสะดวกซื้อ สิ ว่ามีน้ำขายหรือเปล่า มีค่ะ แต่เป็นขวดเล็ก ที่ราคาแพงกว่าปกติ แล้วปกติ จะมีขวด ๒ ลิตร ไม่มีแล้ว มีแค่ ๑ ลิตร ราคานั้นก็เป็นเท่าตัว นึกดูสิ น้ำราคาขนาดนี้ คนที่ไม่ได้มีเงินเดือนแยะ เขาก็ต้องลำบาก ต้องดิ้น ตอนนี้ข้าวของแพงค่ะ แล้วอย่างนี้ เมืองไทย คนบางกลุ่ม ยังเห็นด้วย และออกข่าวบอกว่า จะทบทวน เรื่องจะสร้างโรงไฟฟ้า พลังกัมมันตภาพรังสี

คนญี่ปุ่นบอกว่า ถ้าเอาไปสร้าง ก็บ้าแล้วคนไทย

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

หน้าหนาวญี่ปุ่น ที่นะงะโนะ

พูดถึงหน้าหนาว แล้วไปไหนก็หนาว ก็ขาวไปหมด พอพูดแบบนี้แล้ว ผู้คนก็จะหนีหนาวไป องเซน โดยเฉพาะ ชาวเกษตรกรทั้งหลาย ไม่มีอะไรให้ต้องทำ เป็นฤดูกาลแห่งการพักผ่อน
อีกส่วนหนึ่งก็ ไปออกกำลังกาย กันที่สนามสกี

สนามสกีที่เห็นนี้ อยู่ที่เถือกเขา โทงะกุชิ เป็นสนามสกี ที่อยู่ในระดับที่ไม่ยาก เสียส่วนใหญ่ สนามกว้าง
ส่วนที่ สนามสกี มาดะราอุ (斑尾高原スキー場) อันนี้ ก็น่าเล่นค่ะ เพราะส่วนใหญ่อยู่ในระดับที่ไม่ยาก แล้วหากขึ้น ropeway (กระเช้าไฟฟ้ายักษ์) ไปจะเห็นทะเล ที่จังหวัดนิงะตะ และ เทือกเขาเอลป์ เจแปน ได้ชัดเจน โดยเฉพาะวันที่อากาศดี เป็นภาพที่สุดจะบรรยาย น่าเสียดายที่ไม่ได้เอามือถือ หรือ กล้องติดไป ไม่นั้น คงได้ภาพสวยๆ มาอวดค่ะ

แต่น่าเสียดายว่า ตอนนี้ที่ญี่ปุ่น จะไปไหน ก็กลัวค่ะ เนื่องจาก ยังอยู่ในสภาพที่มีแผ่นดินไหว (กลัวถนนถูกตัด โดยเฉพาะบริเวณเขา หรือที่สูงๆ) ต่อเนื่องที่มาจาก ทซึนะมิ ที่ฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และ ก็ยังรังสีร้าย ที่เกิดมาจากโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเครีย ที่ระเบิด โดยเฉพาะวันที่ฝนตก หรือ หิมะตก ในบริเวณที่สูงๆ ที่หุบเขานั้น หิมะจะตกบ่อย ก็เลยน่ากลัวค่ะ ต้องอดใจไว้ก่อน

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

ญี่ปุ่น เคราะห์ซ้ำ กรรมซัด

สวัสดีค่ะ
ห่างหายไม่ได้เขียนไปเสียนาน วันนี้ก็วันศุกร์ เป็นหนึ่งอาทิตย์เต็มแล้ว ที่ญี่ปุ่นแถบตะวันออกเฉียบเหนือติดคาบมหาสมุทรแปรซิก ได้ถูกกระหน่ำด้วยคลื่นสึนามิ ที่ซัดเอาลูกแล้วลูกเล่า สูงจนทะลักเข้าไปในปล่องโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ (ปรัมมณู) และทะลักลึกเข้ามาในฝั่งแผ่นดิน ถึง ๒ กิโลเมตร กลืนบ้านเรือน ผู้คน ไปเป็นจำนวนหมื่น ใครที่ได้เห็นภาพแล้วคงคิดว่าเป็นหนัง แต่เป็นเรื่องจริง ที่มนุษย์นั้นทำร้าย ทำลายธรรมชาติ โดยเฉพาะเจ้าโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์นี้ ที่ทำเอาสิ่งแวดล้อมเสีย อ่านจากในเวปซ์บ้านเรา เขาบอกว่า เป็นโรงงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อย อ่านแล้ว ต้องแสดงความคิดเห็น เลยว่า แล้วขยะจากเตาปฏิกรณ์ นั้นเล่า เอาไปทิ้งที่ไหน
ฝังลงทะเล ลงแผ่นดิน แล้วไง โลกก็รับไม่ได้ คืนสิ่งที่ร้ายกลับมาเป็นเท่าตัว
คิดได้เลยที่บ้านเรา นั้นอยากจะสร้าง อยากนักอยากหนา เพื่อรองรับการลงทุน จากต่างประเทศ เพื่อให้โรงงานได้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนในชาติ ถามว่า ที่ผ่านๆ มาเราอยู่กันได้หรือไม่ ก็อยู่ได้ เพิ่มรายได้ คนก็เพิ่มรายจ่าย ตามเป็นเงากับรายได้ "อย่า อย่า" เปลี่ยนเป็นพลังงานอย่างอื่นกันเถอะ "พลังลม พลังแสงอาทิตย์" จำได้เลย สมัยก่อน เวลาอากาศหนาวๆ หลังจากกลับมาจากโรงเรียน แม่บอกว่า นี่แม่ตักน้ำใส่อ่างตากแดดไว้ให้ รีบไปอาบซะ กำลังอุ่นๆ
แล้ว ครั้งหนึ่งที่ตัวเองกำลัง ยุ่ง วุ่นวาย กับงานบ้าน และก็ต้องดูน้อง ตัวเองเอาหม้อแกงส้ม ไปตากแดด แล้วก็บอกให้น้องกินข้าวซะ แกงกำลังอุ่นๆ น้องก็ตกใจ แต่ เราก็กินให้ดูก่อน

นี่ไงมั้ง สิ่งที่สามี ชมว่า เรามีพื้นฐานในเรื่องการรักสิ่งแวดล้อม ทั้งที่เราบอกว่า เรานี่ได้จากบริษัท บริษัทพร่ำสอน เรื่องนี้ (รวมถึงเป็นกรรมการสิ่งแวดล้อมด้วย) แต่คนที่บ้านบอกเราว่าไม่ใช่ เป็นเพราะว่าเธอ มีพื้นฐานมาก่อน
นี่ไง คุณๆ ทั้งหลาย อย่าให้ใครมาว่าเรา ว่าเราทำไม่รักโลก รักมนุษย์ โลกใบนี้จะฟื้นกลับมาได้ ถ้าพวกเราร่วมใจ ช่วยกันตั้งแต่วันนี้ เริ่มที่ตัวเราเองก่อน แล้วเราก็จะไปสอน ไปบอกลูก ไปบอกน้อง ไปบอกหลาน ได้อย่างไม่อายใจ อายปาก จะไม่มีใครมากล้าว่า กล้าดูถูกเรา ดูถูกพ่อแม่ ดูถูกสถาบันการศึกษา ครู บาอาจารย์เรา
ดูอย่างเราสิ ยังได้รับคำชม จากคนที่บ้าน ให้เราเก็บไว้ชื่นอกชื่นใจ พ่อแม่เรา ก็ไม่ถูกดูถูก ให้สามีได้ชมภรรยา ให้ภรรยาได้มีแรงใจ ให้เราได้นึกได้ทันทีว่า คนของเรา นี่ก็ดี ไม่ใช่น้อย เป็นคนดี เป็นมนุษย์ที่ใช้ได้ มีแต่ดีค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

~ を 通して

My memorial after lean 
~ を通して  → することで、

・ 歌を通して、 言葉を覚えた。
・ 夫と喧嘩を通して、 自分の考えを伝えた。
・ TVの番組を通して、 他の世界を知った。

あたかも~かのように

บันทึกความจำ เรื่องที่เรียนมาเมื่อวันพุธ ที่ ๓ มีนาคม
あたかも ราวกับ まるで

・ 長野にいると、あたかも スイスにいる かのように感じる

・ 美術館で、古い美術品に囲まれていると、あたかも 自分が その時代にいる かのように 気がしてくる

・ あの人と話していると、 あたかも 母と話している かのように 思えてくる

・ 彼女は あたかも お金持ちである かのように話す。