วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความรู้สึกจากคนในครอบครัว คนสติไม่ดี

คนไทยเรา มีคนสติไม่สมบูรณ์ เดินเพล่นพล่าน กันให้เห็น มากมาย ด้วยความใจดีของคนไทย ของเราจึงปล่อยๆ กันไว้ หรือ ไม่อยากยุ่งกับคนบ้า เพราะว่า เป็นภาระ  มันก็จริง คนบ้า เป็นภาระต่อสังคม แต่สังคมก็ก่อให้เกิดคนบ้าพวกนี้ มามากมาย สารระเหย ยาม้า ยาชูกำลัง สิ่งเสพติด อากาศที่รุ่มร้อน ครอบครัวที่รุ่มร้อน สภาพแวดล้อม ต่างๆ ที่ทำให้คนพวกนี้ ไม่สามารถ ผ่าฟัน วิกฤติชีวิตออกมาได้
            การอยู่ร่วมกับ คนสติไม่ดี ในครอบครัว ก็อยู่ยาก หากครอบครัวไม่เข้าใจ ไม่พยายามเข้าใจ อย่าว่าแต่คนนอกเลย ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่
            คนบ้า คนสติ ไม่ดี ก็มีชีวิตจิตใจ พวกนี้ พูดพล่าม หรือ ไม่พูด ก็มีแยะ หากไม่อยากมีเรื่อง ก็ห่างๆ พวกนี้ไว้ ไม่ต้องไป ทำร้าย หรือ พูดไม่ดีกับเขา เพราะว่า เขาก็มีชีวิตเบื้องหลัง ที่ไม่ดีมาก่อน อย่าไปจุดไฟเขาเลย ไม่นั้น มันก็จะยุ่งไปใหญ่ แค่คุณไม่ได้พูดกับเขา แต่เขามีความเชื่อว่า คุณไม่ดีกับเขานี่ก็แย่แล้วแหล่ะ
           แต่คนสติไม่ดี พวกนี้ ก็มีศรัทธาในตัวคนบางคน  คนที่เขาศรัทธา นั่นแหล่ะ ที่จะพูดแล้วเขาฟัง สงบลง หรือ อีกประเภทที่ปราบอยู่ก็คือ พวกกลุ่มคนที่เขากลัว แต่พวกนี้ก็จะยิ่งกดดันให้เขา เป็นไปใหญ่
           คนกลุ่มนี้ อาจจะเป็น ผู้คุม คนบ้า, กลุ่มตำรวจ , ทหาร ดูแล้วเคร่งขึม น่ากลัว  แต่ก็ใช้ได้ เพียงแค่คำสั่ง เป็นบางครั้ง ให้เขาอยู่ในความสงบ  หยุด ฟัง   คราวนี้ก็ต้องกลุ่ม นักจิตวิทยา แต่นักจิตวิทยา ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหมอ แพทย์ พยาบาล เพียงแค่ พี่น้อง ญาติ คนรอบข้่างที่ พูดจา น่าฟัง รู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา

            จากประสบการณ์ ที่นี่ ที่ญี่ปุ่นแล้วละก็ มีคนใกล้บ้าน ที่มีลูกชาย สติไม่สมบูรณ์ ทั้ง2คน สมัยก่อนที่ ปู่ พ่อ อยู่ด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย  แต่พอเหลือ แต่แม่คนเดียวเท่านั้น .......  เรียกรถ ตำรวจ  รถพยาบาลด่วน มากันเป็นว่าเล่น แทบจะทุกอาทิตย์ จนข้างๆ บ้านเขาบ่นให้ฟัง
             สำหรับเราแล้ว เราฟังแล้วเข้าใจ สงสาร แม่ของคนที่สติไม่สมบูรณ์ ยิ่งมีลูกเป็นผู้ชายแล้วละก็ เวลาคลั่งขึ้นมา นั้นน่ากลัว เราเข้าใจ แต่ข้างๆ บ้านไม่เข้าใจ นี่สิน่าสงสาร     แต่อย่างไรก็ตามที่ยังเป็นญี่ปุ่น คนของภาครัฐบาลนั้น บริการประชาชนได้อย่างน่าประทับใจ ทุกหน่อยงาน เรียกมา ก็มากันทันที ทันใด เอาไปส่งในสถานที่ เขาสงบอารมณ์ได้ ประมาณ 1 อาทิตย์ก็กลับมา  แล้วก็ไปกันใหม่อยู่อย่างนี้  แต่ก็ยังดีที่มีหน่อยงานช่วยเหลือ

           

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

ฮกไซ ซัง กับ โอะบุเสะ 北斎さんN小布施

ภาพเหมือน สึชิกะ โฮะกุไซ (หรือ จะออกเสียงแบบคนญี่ปุ่นก็คือ โฮกไซ)
 โฮกไซ ผู้นี้เกิดในปี คศ.1760 เสียชีวิตในปี 1849 รวมอายุ 90ปี เป็นช่างวาดภาพในสมัยเอะโดะ ตอนปลาย คือ  โตเกียวเก่านั่นเอง นับจากที่เขาเสียชีวิต จนถึงวันนี้ ในปี 2015 ก็รวมเวลา 166ปี หรือ จะพูดง่ายๆ คือ เรื่องเมื่อ 200ปี ที่ผ่านมาน่าจะฟังง่ายกว่า  ผลงานกว่า 3หมื่นชิ้น หาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากth.wikipedia.org/wiki/คะสึชิกะ_โฮะกุไซ
神奈川沖浪裏』(かながわおきなみうら) เมื่อปี 1831 หรือ 184ปี ภาพนี้ เมื่อจับด้วยกล้องความเร็วสูง แล้ว จะพบว่า คลื่นน้ำแตกกระเซ็น ไม่ต่างไปจากภาพเขียน ชาวต่างชาติ จึงยกย่อง ให้ เขาเป็นผู้ที่มีอัจฉริยะ ในการวาดภาพ (ชื่อเสียงของเขาได้รับการยกย่อง กล่าวถึง เมื่อเขาเสียชีวิตไปแล้วระยะหนึ่ง)  ภาพนี้เป็นภาพพิมพ์(แกะสลักไม้)
 
  ที่น่าสนใจ ข้อมูลเพิ่มเติม คือ เมื่อในขณะที่วัยอายุ 70ปี บ้านเขาได้เกิดไฟไหม้ (ทำให้อุปกรณ์ข้อมูล ต่างๆ ของเขาได้สูญหายไปแยะ) ซึ่งอาจจะทำให้เข้าได้ออกเดินทางไปเท่าญี่ปุ่น เพื่อหาวาดภาพ ในช่วงอายุนี้ เขาเริ่มวาดภาพที่ลงสีทันที (สมัยก่อนๆ นั้น วาดภาพโดยแกะไม้สลัก ภาพเดียวกัน แต่ว่า แกะไม้หลายชิ้น แล้วค่อยลงสีทีละสี ทีละขั้นตอน ดังนั้น ภาพเดียวกัน ก็สามารถพิมพ์ออกมาได้จำนวนมาก  รวมถึง หนังสือตำรา การ์ตูน ในสมัยนั้น) 
เรื่องที่น่าสนใจ ต่อมา คือ เขาได้เดินทางมา "อำเภอโอะบุเสะ (จว.นางะโนะ)" เมื่อตอนเขาอายุ 83ปี จำนวนรวม 4ครั้ง  เมื่อเกือบ 200ปีที่แล้ว การเดินทาง คือ เดินด้วยเท้า กว่าจะถึงที่นี่ ก็อย่างน้อย 240 กม แล้ว ทางเป็นเขา ต้องขึ้นเนิน ไม่น่าเชื่อ สำหรับ คนอายุ 80กว่า เมื่อตอนเขาอายุ 70 นั้น เขาได้พบกับหนุ่มชื่อ 高井 鴻山 ทะคาอิ  โคอุซัง คหบดี(พ่อค้า)ชาวโอะบุเสะ ในร้านรับจำนำของ แล้ว โคอุซังก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ มีสิ่งที่เกิดความถูกใจกัน ทำให้โฮกไซ ได้เดินทางมาที่นี่ พร้อมกับวาดภาพเพื่อประดับบนเพดานหลังคาวัด กันโซอิน ไว้ให้เป็นจุดท่องเที่ยว จนทุกวันนี้ (สีของภาพไม่ได้จางไปตามกาลเวลามากนัก)  แต่มีบางคนกล่าวว่า ฮงไซ อาจจะวาดภาพนี้ไม่ได้เสร็จสมบูรณ์ แต่ลูกสาว (คนที่ 1 และ 3 เป็นช่างภาพตามพ่อ) คงจะสานต่อให้จนเสร็จ
    

         นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังวาดภาพ สำหรับประดับ บนหลังคา รถเข็น ที่ใช้ ในงานรื่นเริง ประจำปี อีก
 

รถ 2 คน คันละ 2ภาพ คันหนึ่งก็ ภาพ นก กับ งู อีกคันก็ คลื่นน้ำ หญิง กับ ชาย