วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เที่ยวคิวซู 大分県 別府

สวัสดีค่ะ




สำหรับวันนี้ เป็นบันทึก การเดินทาง ท่องเที่ยว คิวซู ที่จัดหวัด โอยตะ อำเภอ เป็บบุ จังหวัด โอยตะเป็นจังหวัดที่อยู่แถบตอนบนๆ ของคิวซู แถบทะเลแปซิฟิก เป็นจังหวัดที่ มีองเซนมากเป็น ลำดับที่สอง ของประเทศ รอง จากกุนมะ ดูจากภาพตรงที่มีควันๆ นั้นเป็นองเซนทั้งนั้นค่ะ ภาพไม่ชัดเจนเพราะว่า วันนั้นเป็นวันที่อากาศครึ้ม ฝนตก ลมแรงมากๆ ป้ายตามทางล้มกระจัดกระจาย เดินนี้เรียกว่า เดินไม่ได้ ก้าวไปก็ถอย (คราวหน้าไปใหม่ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นี่ คิดว่าน่าจะได้ภาพดีๆ)
ไปที่นี่จังหวัดที่ติดกับทะเล ในหัวคิดเลย ต้อง ปลาดิบ แล้วก็ต้องบอกว่า อร่อยจริงๆ กินไปแล้วนึกขึ้นได้ ต้องถ่ายรูปก่อน (ที่เห็นในที่ใส่เฉลียงๆนั่นคือ เนื้อของหอยเม่นค่ะ หอยที่มีหนามดำๆ แหลมๆ ยาวๆ เขาเรียกว่า อุนิ ค่ะครั้งก่อนไปกินที่ จังหวัด คะนะคะวะ มาแล้ว ต้องติดใจ กับ หอย โฮตะเต แล้วคราวนี้ที่กิน ก็มี ปลาบุริ ไท ซะบะ อะจิ ขอบอกว่ามันอร่อยจริงๆ แต่ที่ไม่ถูกใจ จะต้องบอกว่า ซามอล ที่นะงะโนะ นั้นอร่อยกว่าค่ะ ปลาซามอล นั้น อยู่ทั้งในทะเล และ ในน้ำจืด คือ จะวางไข่ ในน้ำจืด พอโตก็จะว่ายกลับไปทะเล แล้ว ก็กลับมาวางไข่ในน้ำจืด อย่างที่รอยต่อ ระหว่างทะเล กับ น้ำจืด ที่จังหวัด นิงะตะ นี่ซามอล ก็อร่อยค่ะ

ของที่เลื่องชื่ออีกอย่างของ โอะตะค่ะ ไก่ (อาหารจากไก่ ที่เลื่องชื่อที่นี่ก็คือ ไก่เทมปุระ)

จากภาพ ภาชนะใส่อาหารคือหิน ที่เอาไปย่างไฟให้ร้อนๆ แล้วใส่ไก่ย่าง มาเสริฟ โรยด้วยหอมยาวใหญ่หั่นฝอย แต่อยากจะบอกว่า ไก่บ้าน บ้านเรานี้ อร่อยกว่าค่ะ มีความแข็งความกรอบมากกว่า



พักที่ 杉乃井ホテル โรงแรมที่บอกนี้ ก็ดีค่ะ มีหลายอย่างให้เพลิดเพลิน เช่น แช่น้ำแร่ หรือ เข้าซาวน์น่า ไป ดูทะเลไปพราง

มีสระน้ำร้อน กว้างขวาง ที่ให้แขกทุกคน ไม่ว่าหญิง ชาย ได้ใช้บริการ สนุกกับครอบครัว มีสปอตไลท์ ให้เพลินกับ ระบบแสง และ อุโมงที่ข้างในเป็นน้ำที่มีเกลือสูง ให้ตัวเราลอย นอนเอาหูจมลงไป ฟังเพลงในน้ำ มันได้ความชัดเจนมากๆ เป็นสัมผัสใหม่

รวมทั้งอาหาร แบบบุฟเพ่ ที่แฝงความเป็น ร้านแผงลอย อาหาร ที่พร้อมให้บริการเมื่อลูกค้า ต้องการ ที่เราอร่อยและสนุกกับการกินมื้อนี้ ก็คือ ปูยักษ์ย่างค่ะ

หากเพื่อนๆ จะหาที่ท่องเที่ยว หรือ อยู่ใกล้ๆ แถบนั้น ก็ลองไปกันดู ลองไปนอน องเซนทราย(มีเจ้าหน้าที่คอยบริการ โกยทรายทับตัวให้ เห็นสถานที่แล้วก็นึกว่า วัดเสียอีกค่ะ แถมสถานที่ตั้งก็ยังอยู่ในแหล่งชุมชน )

หรือ อาบน้ำแบบที่คนทั่วๆไปเขาใช้บริการกัน คือ ครั้งละ แค่ ๑๐๐ เยน หากจะหาที่ท่องเที่ยว ที่แบบนี้ ก็น่าสนใจไม่น้อยค่ะ

ต้องขอขอบคุณ คุณสามี ที่หาที่ท่องเที่ยว และ ออกสตังค์ให้ ขอบคุณสำหรับ สัมผัสใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆ อาหารที่ไม่เคยได้ลิ้มรสแบบนี้มาก่อน ขอบคุณค่ะ

よほどのことがない限り

อันนี้ก็ตัดมาจาก japanese is Fun ของอาจารย์ Dr. Preeya มาบันทึกไว้เพื่อให้หาเจอได้ง่าย จริงแล้วก็จดไว้ในสมุดด้วย แต่ว่าคิดว่า คอมฯมันค้นง่ายกว่า ก็เลย ก๊อปปี้ มาแปะไว้ เพื่อคนอื่นด้วย

สวัสดีค่ะ เด็กวัดวันทิมา และเด็กวัดทุกคน

อาจารย์เอาตัวอย่างมาอธิบายให้ฟังนะคะ毎日まるて時計ででも計ったように五時半に必ず家へ帰ってきた。 どんなに暑くてもどんなに寒くても、 よほどのことがない限り、 これは定年で退職するまで変らなかった。ทุกวันราวกับนาฬิกา วัดเอาไว้ ห้าโมงครึ่งเป็นต้องกลับมาบ้าน ไม่ว่าจะร้อนหรือไม่ว่าจะหนาว ................ เรื่องอันนี้จวบจนเกษียณไม่เคยเปลี่ยนแปลงทุกๆวัน กลับมาบ้านตอนห้าโมงครึ่ง ราวกับตั้งนาฬิกาไว้ก็ไม่ปานไม่ว่าอากาศจะร้อน หรือจะหนาว ตราบใด หรือ ถ้าไม่มีเรื่องอะไรเป็นพิเศษ (เกินกว่าที่จะควบคุมได้) เรื่องที่ว่านี้ (คือ สิ่งที่ทำเป็นประจำ) จนกว่าจะถึงวันเกษียณก็คงไม่เปลี่ยนแปลง

พูดง่ายๆ การที่จะใช้สำนวนนี้ มักจะเน้นให้เข้าใจถึงการมองสภาพเหตุการณ์ต่างๆว่า น่าจะต้องเป็นแบบนี้ เพราะเดาออกได้
เช่น ถ้าเกิดคนมาเล่าว่า วันทิมา ไปมีเรื่องกับใครสักคน แต่โดยนิสัยเดิมที่อาจารย์รู้ เด็กวัดวันทิมา ไม่ชอบยุ่งกับใคร ไม่มีปากเสียงกับใครยังไงก็ได้
ในกรณีนี้ แทนที่จะบอกว่าไม่จริง อาจารย์ก็จะพูดในทำนองว่า よほどのことがない限り、人とけんかなんかしないでしょう。 ถ้าไม่ใช่เรื่องขนาดที่ว่า วันทิมา ทนไม่ได้ หรือ รับฟังไม่ได้ วันทิมาคงไม่ไปทะเลาะกับเขา

~きっかけに 

อันนี้ เป็นบันทึกส่วนตัว ที่คุณห้ามถาม แต่หากคุณอ่านแล้วเข้าใจ ก็ดีใจด้วยค่ะ
きっかけに มีความหมายถึง การเริ่มจาก สิ่งนั้น แล้วจะทำให้เกิดผล ช่องทาง ต่อไป
その事があったから あることする てがかり
 
Ex. 彼女は子供が生まれたのをきっかけに、仕事を変えた
   ผลจากการที่หล่อนมีลูก ทำให้เปลี่ยนงาน
Ex. ある日本人と友達になった事がきっかけで、日本に来ました。


และที่มีความหมายที่คล้ายๆ กันก็คือ ~を契機(けいき)に จาก แต่มักมีความหมายเชิงบวก
Ex. 入院を契機として、保険に入った。
   หรือจะแบบว่า จากการที่ย้ายที่อยู่ใหม่ ทำให้ได้เจอเธอ (คิดเอง)

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ความเครียด ความกดดัน ในญี่ปุ่น

เมื่อมาใช้ชีวิตจริงๆ ในญี่ปุ่น แล้วถึงได้รู้ว่า มันเครียด มันกดดัน อะไรหลายๆ เรื่อง
เคยทำอะไรกับตัวเอง ที่เรียกว่า มันสุดเหวี่ยงไปเลย ก็เคย หลังจากนั้น มันก็รู้สึกดีขึ้นมาพักหนึ่ง
แต่แล้ว มันก็กลับมาอีก มันเกิดได้หลายๆ อารมณ์ ทั้งอารมณ์เศร้า ความรู้สึก หวั่นไหว
เคยถูกเพื่อนต่างชาติถาม เรื่องนี้ ว่าเราเป็นแบบเขาหรือเปล่า เขาเป็นแต่ดีที่เขามีลูก ก็เลยหลุดอารมณ์นั้นได้บ้าง แต่มันก็เกิด ขึ้นเรื่อยๆ
อ้อ ไม่ใช่เป็นแต่เรา เท่านั้น

แต่สองวันนี้ รู้สึกดีขึ้น อารมณ์ที่ดีขึ้น นั้น จากเสียงเพลง ก่อนนอนเปิดเพลง ทิ้งไว้ นึกถึงเมืองไทยเลย เมืองไทยนี้ ถ้าหากเปิดละก็ เปิดกันสุดๆ เผื่อข้างบ้านกันด้วย (หากกลุ่มบ้านเดียวกัน คอเดียวกันก็ดีไป แต่แตกต่างกลุ่มกัน คนละคอเพลงละก็ รำคาญเหมือนกัน ว่าไหม อันนี้เคยมาแล้ว เพลงสองเพลง พอทน พี่ท่าน เล่นเป็นวัน)
แล้วนึกขึ้นมาได้ Down load MP3 จาก youtube มาเสียบหูฟัง เปิดมันลั่นๆ หู ไปเลย เปิดเพลงมันๆ อย่าง เพลง พี่เบริด love you so much too much อะไรนี่ รู้สึกเบาความรู้สึกขึ้นมาเลย
ลองดูก็แล้วกัน เพื่อนๆ เผื่อจะคลายเครียด ได้สักช่วงหนึ่ง ได้ก็ยังดี นึกถึงเจ้าน้องชายตัวดีเลย รถมันนี่ เต็มไปด้วยลำโพง เอ้ย เพิ่งจะเข้าใจน้อง มันคงเครียดมัน

บัวลอยไข่หวานในญี่ปุ่น “タイのデザート[ブーア ロイ]”


お餅 + 豆乳(ココナッツミルクの変わりに) + 沖縄砂糖 + 塩(少々) + 卵

สวัสดีค่ะ

สำหรับเพื่อนๆ คนที่อยู่ในญี่ปุ่น อยากจะกิน ขนมไทย ที่ตัวเองทำได้ง่ายๆ แนะนำบัวลอยไข่หวานค่ะ

ส่วนประกอบคือ ข้าวเหนียวแท่ง ที่เขาเรียกว่า โอโมจิ มีขายตามห้างทั่วไป จะเลือกขนาดไหน ก็แล้วแต่ชอบค่ะ เลือกเล็กหน่อย ก็ได้กินไว

นมถั่วเหลือง ที่ขายเป็นกระป๋องกระดาษ และ หากจะอร่อย ก็ต้องน้ำตาลปี๊บค่ะ แต่หากไม่มี เปลี่ยนได้ค่ะ น้ำตาลทรายแดง จากโอกินะวะ ที่เป็นก้อนๆ


วิธีทำ ตั้งหม้อใส่น้ำนิด เพื่อไม่ให้ไหม้ แล้วเติมนมถั่วเหลือง ใส่เกลือหน่อย น้ำตาล และ ตามด้วย โอโมจิ (หากก้อนเล็กๆ ก็เคี่ยวส่วนผสมอื่นก่อน) พอโอโมจิ อ่อนแล้ว ก็ตามด้วยไข่เลยค่ะ จะเลือกกินแบบไข่แดงเป็นน้ำเย้มๆ หรือ แข็ง ก็แล้วแต่ค่ะ

อากาศหนาวๆ อุ่นท้อง ได้ความอร่อยแบบคนไทย ที่อยู่ที่ไหนก็ยังอยากกินอาหารไทย

ความหนาวที่คุณอาจจะไม่รู้





ดูจากรูปแล้ว คุณคิดดูสิ ว่า หากคุณจะไปไหน จะออกนอกบ้าน คุณจะต้องไปเอาเจ้าหิมะออกจากหน้ารถคุณก่อน แล้วหากวันไหนหิมะตกมากละก็คุณจะต้องมีหน้าที่ไปโกยเจ้าหิมะ ตามทางเดินเข้าบ้านคุณเอง ส่วนถนนใหญ่นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ภาครัฐมาทำการโกยออกให้ หากถนนใหญ่มากๆ ก็จะโรย สารเคมี ที่มีส่วนผสมของเกลือ อันนี้แหล่ะ ตัวที่จะทำให้เจ้าเครื่องยนต์เป็นสนิม หากคุณไม่ไปทำการล้างช่วงล่าง (จังหวัดไหนหิมะตกเยอะ คนที่นั่นต้องเสียภาษีท้องถิ่นตรงนี้กันมากหน่อย)




หนาวอย่างนี้ คิดดูสิ จะตากผ้า กันอย่างไรดี

คนญี่ปุ่น ส่วนหนึ่ง นิยม ที่จะใช้บริการ ร้านซักรีด

หรือ อีกกลุ่มหนึ่ง ก็นิยม ร้านซัก อบแห้ง อัตโนมัติ

และ อีกส่วนหนึ่งก็ ใช้วิธีตากในบ้าน ตากกับเครื่องทำความร้อน

และก็อีกส่วนหนึ่ง ที่เอาไปอบใน โต๊ะโคตะซึ  ที่ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของไฟไหมได้




นี่ไงค่ะ เจ้าโคตะซึ ที่ว่า มันคือโต๊ะที่ข้างล่าง มีแผงไฟฟ้า ทำความร้อน ซึ่งจะมีปุ่มให้ปรับความร้อน และใช้ผ้าคลุมหลายๆ ชั้นเอไม่ให้ความร้อนรั่วไหล
แต่ว่า นั่งไปนั่งมาเคล้ม อยากจะหลับ เพราะความอุ่น ไม่อยากเคลื่อนไหว
แล้ว เจ้าภัยร้าย จากโต๊ะตัวนี้ มันก็จะทำให้เราเวียนหัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง
รู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว
อะไรที่มีประโยชน์ มันก็มีโทษ