วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

พิธีการญาปณกิจ ที่ญี่ปุ่น

เมื่อเกิดเหตุการณ์ แบบนี้ขึ้นมา จะทำอย่างไร แต่โชคดีที่่มีญาติ คอยช่วยเหลือ 

วันจันทร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ความรู้สึกจากคนในครอบครัว คนสติไม่ดี

คนไทยเรา มีคนสติไม่สมบูรณ์ เดินเพล่นพล่าน กันให้เห็น มากมาย ด้วยความใจดีของคนไทย ของเราจึงปล่อยๆ กันไว้ หรือ ไม่อยากยุ่งกับคนบ้า เพราะว่า เป็นภาระ  มันก็จริง คนบ้า เป็นภาระต่อสังคม แต่สังคมก็ก่อให้เกิดคนบ้าพวกนี้ มามากมาย สารระเหย ยาม้า ยาชูกำลัง สิ่งเสพติด อากาศที่รุ่มร้อน ครอบครัวที่รุ่มร้อน สภาพแวดล้อม ต่างๆ ที่ทำให้คนพวกนี้ ไม่สามารถ ผ่าฟัน วิกฤติชีวิตออกมาได้
            การอยู่ร่วมกับ คนสติไม่ดี ในครอบครัว ก็อยู่ยาก หากครอบครัวไม่เข้าใจ ไม่พยายามเข้าใจ อย่าว่าแต่คนนอกเลย ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่
            คนบ้า คนสติ ไม่ดี ก็มีชีวิตจิตใจ พวกนี้ พูดพล่าม หรือ ไม่พูด ก็มีแยะ หากไม่อยากมีเรื่อง ก็ห่างๆ พวกนี้ไว้ ไม่ต้องไป ทำร้าย หรือ พูดไม่ดีกับเขา เพราะว่า เขาก็มีชีวิตเบื้องหลัง ที่ไม่ดีมาก่อน อย่าไปจุดไฟเขาเลย ไม่นั้น มันก็จะยุ่งไปใหญ่ แค่คุณไม่ได้พูดกับเขา แต่เขามีความเชื่อว่า คุณไม่ดีกับเขานี่ก็แย่แล้วแหล่ะ
           แต่คนสติไม่ดี พวกนี้ ก็มีศรัทธาในตัวคนบางคน  คนที่เขาศรัทธา นั่นแหล่ะ ที่จะพูดแล้วเขาฟัง สงบลง หรือ อีกประเภทที่ปราบอยู่ก็คือ พวกกลุ่มคนที่เขากลัว แต่พวกนี้ก็จะยิ่งกดดันให้เขา เป็นไปใหญ่
           คนกลุ่มนี้ อาจจะเป็น ผู้คุม คนบ้า, กลุ่มตำรวจ , ทหาร ดูแล้วเคร่งขึม น่ากลัว  แต่ก็ใช้ได้ เพียงแค่คำสั่ง เป็นบางครั้ง ให้เขาอยู่ในความสงบ  หยุด ฟัง   คราวนี้ก็ต้องกลุ่ม นักจิตวิทยา แต่นักจิตวิทยา ก็ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหมอ แพทย์ พยาบาล เพียงแค่ พี่น้อง ญาติ คนรอบข้่างที่ พูดจา น่าฟัง รู้จักผ่อนหนัก ผ่อนเบา

            จากประสบการณ์ ที่นี่ ที่ญี่ปุ่นแล้วละก็ มีคนใกล้บ้าน ที่มีลูกชาย สติไม่สมบูรณ์ ทั้ง2คน สมัยก่อนที่ ปู่ พ่อ อยู่ด้วยก็ไม่มีปัญหาอะไรมากมาย  แต่พอเหลือ แต่แม่คนเดียวเท่านั้น .......  เรียกรถ ตำรวจ  รถพยาบาลด่วน มากันเป็นว่าเล่น แทบจะทุกอาทิตย์ จนข้างๆ บ้านเขาบ่นให้ฟัง
             สำหรับเราแล้ว เราฟังแล้วเข้าใจ สงสาร แม่ของคนที่สติไม่สมบูรณ์ ยิ่งมีลูกเป็นผู้ชายแล้วละก็ เวลาคลั่งขึ้นมา นั้นน่ากลัว เราเข้าใจ แต่ข้างๆ บ้านไม่เข้าใจ นี่สิน่าสงสาร     แต่อย่างไรก็ตามที่ยังเป็นญี่ปุ่น คนของภาครัฐบาลนั้น บริการประชาชนได้อย่างน่าประทับใจ ทุกหน่อยงาน เรียกมา ก็มากันทันที ทันใด เอาไปส่งในสถานที่ เขาสงบอารมณ์ได้ ประมาณ 1 อาทิตย์ก็กลับมา  แล้วก็ไปกันใหม่อยู่อย่างนี้  แต่ก็ยังดีที่มีหน่อยงานช่วยเหลือ

           

วันพฤหัสบดีที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2558

ฮกไซ ซัง กับ โอะบุเสะ 北斎さんN小布施

ภาพเหมือน สึชิกะ โฮะกุไซ (หรือ จะออกเสียงแบบคนญี่ปุ่นก็คือ โฮกไซ)
 โฮกไซ ผู้นี้เกิดในปี คศ.1760 เสียชีวิตในปี 1849 รวมอายุ 90ปี เป็นช่างวาดภาพในสมัยเอะโดะ ตอนปลาย คือ  โตเกียวเก่านั่นเอง นับจากที่เขาเสียชีวิต จนถึงวันนี้ ในปี 2015 ก็รวมเวลา 166ปี หรือ จะพูดง่ายๆ คือ เรื่องเมื่อ 200ปี ที่ผ่านมาน่าจะฟังง่ายกว่า  ผลงานกว่า 3หมื่นชิ้น หาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากth.wikipedia.org/wiki/คะสึชิกะ_โฮะกุไซ
神奈川沖浪裏』(かながわおきなみうら) เมื่อปี 1831 หรือ 184ปี ภาพนี้ เมื่อจับด้วยกล้องความเร็วสูง แล้ว จะพบว่า คลื่นน้ำแตกกระเซ็น ไม่ต่างไปจากภาพเขียน ชาวต่างชาติ จึงยกย่อง ให้ เขาเป็นผู้ที่มีอัจฉริยะ ในการวาดภาพ (ชื่อเสียงของเขาได้รับการยกย่อง กล่าวถึง เมื่อเขาเสียชีวิตไปแล้วระยะหนึ่ง)  ภาพนี้เป็นภาพพิมพ์(แกะสลักไม้)
 
  ที่น่าสนใจ ข้อมูลเพิ่มเติม คือ เมื่อในขณะที่วัยอายุ 70ปี บ้านเขาได้เกิดไฟไหม้ (ทำให้อุปกรณ์ข้อมูล ต่างๆ ของเขาได้สูญหายไปแยะ) ซึ่งอาจจะทำให้เข้าได้ออกเดินทางไปเท่าญี่ปุ่น เพื่อหาวาดภาพ ในช่วงอายุนี้ เขาเริ่มวาดภาพที่ลงสีทันที (สมัยก่อนๆ นั้น วาดภาพโดยแกะไม้สลัก ภาพเดียวกัน แต่ว่า แกะไม้หลายชิ้น แล้วค่อยลงสีทีละสี ทีละขั้นตอน ดังนั้น ภาพเดียวกัน ก็สามารถพิมพ์ออกมาได้จำนวนมาก  รวมถึง หนังสือตำรา การ์ตูน ในสมัยนั้น) 
เรื่องที่น่าสนใจ ต่อมา คือ เขาได้เดินทางมา "อำเภอโอะบุเสะ (จว.นางะโนะ)" เมื่อตอนเขาอายุ 83ปี จำนวนรวม 4ครั้ง  เมื่อเกือบ 200ปีที่แล้ว การเดินทาง คือ เดินด้วยเท้า กว่าจะถึงที่นี่ ก็อย่างน้อย 240 กม แล้ว ทางเป็นเขา ต้องขึ้นเนิน ไม่น่าเชื่อ สำหรับ คนอายุ 80กว่า เมื่อตอนเขาอายุ 70 นั้น เขาได้พบกับหนุ่มชื่อ 高井 鴻山 ทะคาอิ  โคอุซัง คหบดี(พ่อค้า)ชาวโอะบุเสะ ในร้านรับจำนำของ แล้ว โคอุซังก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ มีสิ่งที่เกิดความถูกใจกัน ทำให้โฮกไซ ได้เดินทางมาที่นี่ พร้อมกับวาดภาพเพื่อประดับบนเพดานหลังคาวัด กันโซอิน ไว้ให้เป็นจุดท่องเที่ยว จนทุกวันนี้ (สีของภาพไม่ได้จางไปตามกาลเวลามากนัก)  แต่มีบางคนกล่าวว่า ฮงไซ อาจจะวาดภาพนี้ไม่ได้เสร็จสมบูรณ์ แต่ลูกสาว (คนที่ 1 และ 3 เป็นช่างภาพตามพ่อ) คงจะสานต่อให้จนเสร็จ
    

         นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังวาดภาพ สำหรับประดับ บนหลังคา รถเข็น ที่ใช้ ในงานรื่นเริง ประจำปี อีก
 

รถ 2 คน คันละ 2ภาพ คันหนึ่งก็ ภาพ นก กับ งู อีกคันก็ คลื่นน้ำ หญิง กับ ชาย
 

วันอาทิตย์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2557

ลูกปัด เข็มกลัดติดหน้าอก

กว่าจะเสร็จ ดอกนี้ ทำแล้วแก้ ๆๆ 3 ครั้งแน่ะ กว่าจะถูกใจ
やっと できました。 万
足まで 3回 やり直しました。 

ส้มตำในญี่ปุ่น ส้มตำแครอท

ส้มตำไทย แครอท จานนี้ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ให้ไม่ได้(อร่อยมากๆ)
ตอนนี้ แครอท ญี่ปุ่นอร่อย กรอบ เพราะว่า อยูใต้น้ำแข็งมานาน เวลาหั่น จะลั่น แตกก่อนปลายมีดจะถึง
อุปกรณ์ นั้นก็ ง่ายมากๆ ไม่ต้องมี ปู ปลาร้า ใช้ ผงปลา คะสึโอะบุชิ แทน ปู ปลาร้...า และก็ไม่ต้องใส่น้ำตาล เพราะว่า แครอทนั้นหวานอยู่แล้ว
人参 サラダ (タイでは パパヤ サラダけど、 日本はパパヤ(緑)が簡単に手に入れないですから 人参を使いました.. パパヤより 美味しいです) 
材料 : ニンニク 少し、 人参、 トマト「少し)、 ピナット(潰す) 、かつお節 (小さいPack 2Pack) ナンプラー(少し) レイモン (少し)
ดูเพิ่มเติม

ทำไม คุณถึงเป็นคนพิเศษหรือ

You are "Special" คุณมี "ความพิเศษ" คือ มีความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งใครๆ ก็ไม่เหมือน ทุกคนมีความสามารถพิเศษ เฉพาะตน ดังนั้นควรภูมิใจในตนเอง ทำไมพูดเรื่องนี้
เมื่อเช้า เปิดทีวี ดูแว๊ปเดียว มันก็ครึ่งๆ กลางๆแล้วแหล่ะ แต่ทำให้นึกถึงชีวิตในสมัยทำงาน ที่เวียนว่าย แข่งขัน มีการประเมิน การถูกประเมิน แต่ไม่ได้เคยเฉลียวใจ ในเรื่องเหล่านี้เลย พอดูทีวี เลยนึกถึง เรื่องราวเก่าๆ แต่มันก็ย้อนมาไม่ได้แล้วแหล่ะ นอกจากเอามาขยาย ให้เพื่อนๆ คนรู้จัก ที่ไม่ได้เคยเฉลียวใจมาก่อน เผื่อจะได...้เป็นประโยชน์บ้าง
เข้าเรื่องเลย เขาบอกว่า
ในที่ทำงาน มีคนทำงานอยู่หลายประเภท แต่คนที่จะถูกประเมินผลงานได้ดี นั้นคือ พวกที่มีแนวความคิดดี ใหม่ สร้างสรรค์ แต่คุณก็ต้องไม่ลืม หากพวกที่มีแนวคิดดี แต่ไม่มี พวกที่ 2 คือ
พวกที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี สามารถ ปองดรองคนแต่ละคน ให้มาร่วมแนวคิดสร้างสรรค์ แล้วละก็ ถึงแม้แนวคิดจะดี ก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ ด้วยความร่วมมือ
พวกที่ 3 คือ พวกคนที่เป็นผู้รับฟังที่ดี คือ พวกคนกลุ่มนี้ ก็จะเป็นผู้ฟัง ผู้คิดตาม คือ ยอมฟัง ยอมคิดตาม
พวกที่ 4 คือ ผู้ตามที่ดี ผู้ปฏิบัติ ที่ดี คนเหล่านี้คือกำลัง
แล้วยังมีพวกอื่นๆอีก คือ มาฟัง มาดูรายการก็จวนจะจบเสียแล้ว เลยอ่านไม่ทันด้วย ทำให้คิดถึง เมื่อคราวก่อนที่คุณแม่ ฟังรายการวิทยุ ที่เปิดเสียเสียงดัง มาเผื่อเราด้วย เรื่อง ยู อาร์ เสเปเชี่ยว ที่ผู้กำกับภาพยนต์พูดถึง เรื่องคน เรื่องดารา ต่อให้มีดาราที่วิเศษ เก่งกาจ แต่ก็ไม่อาจจะได้ไปทุกเรื่อง สุดยอดไปทุกแบบ ดังนั้น คนของเขา ทุกคนจึงเป็น คนพิเศษทุกคน
สรุป ทุกคนมีความพิเศษส่วนตัวจ๊ะ มีข้อดีที่ไม่เหมือนใคร เป็นส่วนตัว จงภูมิใจ

วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ปวดหลัง มีทางแก้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียตังส์

ใครเป็นโรคปวดหลัง ปวดเอว บ้าง อ่านทางนี้ เมื่อคืน ดูรายการทีวี ดาราตลก เขาปวดหลังมากว่า 20 ปี เพิ่งจะรู้วิธีรักษาตน หลังจากหาหมอมาตลอด พอหายแล้ว ก็ทำหนังสือขายกันเลย ในรายการ ก็มีคุณหมอกระดูก มายืนยัน วิธีการของดาวตลก ว่า ถูกต้อง

       ก่อนอื่นต้องเช็คกันก่อนว่า "ปวดนั้น ปวดมาจากทางด้านหน้า หรือ ด้านหลัง"ทดสอบ ด้านหน้า
กางขาทั้งสองให้สมดุลย์ แล้ว จับมือทั้งสอง จับเอว แล้ว ค่อยก้ม... ไปทางด้านหน้า ให้ต่ำเท่าที่ตนเองทำได้ ไม่ต้องฝืน ทำ 10 ครั้ง (หากปวดมากๆ ก็ไม่ต้องฝืน แสดงว่า คุณปวดมาจากทางด้านหน้า)
ทดสอบ ด้านหลัง
เหมือนกัน เพียง แต่จับเอว ให้เอาหัวนิ้วโป้งมาทางด้านหน้า 4 นิ้ว ไปทางด้านหลัง จะได้ โค้งตัว ลงได้ อย่างไม่ต้องติดมือตัวเอง ค่อยๆ โค้งไปทางด้าน หลัง ทำ 10 ครั้ง

เมื่อ รู้สาเหตุว่า ปวดมาจากด้านหน้า หรือ หลัง

ปวดมาจากทางด้านหน้า วิธีแก้คือ ให้ ทำท่า งูเห่า คือ นอนราบไป แล้ว ใช้แขนทั้งสอง ค่อยๆ ยันลำตัวขึ้น หายใจเข้า ออกให้ลึกๆ ตอน ยกตัวขึ้น ให้ค่อยๆ ปล่อย ลมหายใจ ไปทางปาก เงยหน้าขึ้นจนสุด ทำ 10 ครั้ง วันละ 5 รอบ นึกได้เมื่อไร ก็ทำ
ถ้าไม่สะดวก ที่จะนอนราบ ก็ใช้วิธี ยืน จับเอว แล้วก้มไปทางด้านหน้า เหมือนกัน ทำ 10 ครั้ง วันละ 5 รอบ

ส่วน ถ้าปวดมาจากทางด้านหลัง วิธีแก้คือ นั่งเก้าอี้ กางขา เล็กน้อย เอามือทั้งสอง วางบนหน้าตักใหญ่ แล้ว ค่อยๆ ก้ม ลงในหว่างขา ทำ 10 ครั้ง วันละ 5 รอบ
หากจะยืน ก็เหมือนกัน คือ มือจับเอว แล้วค่อยๆ ก้มไปทางด้านหน้า

สรุป ปวดจากทางด้านหน้า ออกกายบริหาร ไปทางด้านหลัง
ปวดจากทางด้านหลัง ออกกายบริหาร ไปทางทางหน้า
ง่ายดี ไม่ต้อง หาเงิน ไปให้หมอ ไม่ต้องเหนื่อย ซ้ำเหนื่อยซ้อน ร่างกายของเรา เรานั่นแหล่ะ ที่รู้ดี ช่วยตัวเองก่อน คุณหมอ เขาจะได้มีเวลา วินิจฉัยโรค ให้คนที่ไม่สามารถ ช่วยตัวเองได้ ได้อย่างถี่ถ้วน อยากให้หมอไทย เป็นแบบหมอญี่ปุ่นหน่อย ฟังคนไข้ มากกว่านี้หน่อย