วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554

remixed กับข้าวเก่า "สาหร่าย ฮิจิคิ"




วันก่อน ทำ 煮物 (นีโมะโนะ) ใส่ สาหร่าย ฮิจิคิ แล้วก็ แครอท จากสวนปีนี้ (ที่บอกปีนี้ เพราะว่า หน้าหนาวแล้ว ต้องถอนมาฝังดินไว้ในสวนหน้าบ้าน เวลาจะใช้ก็ไปดังเอามา) ใส่มันเทศลงไปด้วย ปรุงรส หวานเค็ม เป็นกับข้าว คนแก่ๆ หรือ จะบอกว่า คนญี่ปุ่น นั้นชอบรส หวานเค็ม เขาจึงชอบแกงเขียวหวาน แต่หากคนไทย ต้องบอกว่า แกงเผ็ด แกงป่า แกงส้ม เสียกระมัง


ว่าแล้วเหลือ นิดหน่อย จะทิ้งก็เสียดาย สามี ยังไม่ได้กินเลย เพราะว่า กลับดึกๆ ต้องทำเมนู อีกแบบ ที่ ไขมันต่ำ


เอาแหล่ะ ของเหลือ นี่แหล่ะ ทำใหม่ เอามันเทศออกซะ แล้ว เพิ่ม ผักสีเขียว ของที่มีในตู้เย็น คือ มิซึบะ ผสมไข่ตี แล้ว ม้วน เหลือ ๒ ชิ้นเท่านั้น ไว้อุ่นใส่กล่องข้าว ให้สามี ไปกินที่ทำงาน

งานอดิเรก ร้อยสร้อยลูกปัด



กว่าเราจะหาสิ่งที่เราชอบ ทำแล้วมีความสุข มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จำได้เสมอ เมื่อเราเข้าชั้น ม.ต้น อาจารย์ฝ่ายแนะแนวการศึกษา จะเฝ้าถามนักเรียนเสมอ ให้นักเรียนคิดมาว่า อยากจะเป็นอะไร ทำอาชีพอะไร มันเป็นเรื่องยากมากๆ เขียนๆ ส่งๆ ไปอย่างนั้นแหล่ะ

ใครที่มองตัวเองได้ออกก่อน คนนั้นก็อาจจะนำไปก่อน แต่ก็ใช่ว่า จะถูกต้องเสมอไป ระหว่างทางนั้น อาจจะมีการลังเล ว่าตัวเองมาผิดทาง กว่าจะถอนตัวเอง หรืออยากจะถอยหลังมาตั้งลำกันใหม่ ก็ใช่เรื่องง่ายๆ เรานั้นอยู่ในข่ายนั้นคนหนึ่ง

แต่วันนี้ ตอนนี้ รู้ว่า ตัวเองชอบ เครื่องประดับ ที่ผ่านมา ไม่มีโอกาส ได้ศึกษา อะไรจริงๆ จังๆ รู้ว่าชอบ แต่คงไม่มีความสามารถ หรือ ไม่มีเวลาพอ

เส้นที่เห็นนี้ จริงแล้ว ยังไม่เป็นที่พอใจ ในบางจุด อาจารย์ที่สอนก็บอกว่า ไม่เป็นไร ดูของอาจารย์สิ ยัง เป็นแบบนี้ แบบนี้ แต่เรานั้นขอแก้ใหม่

ซึ่งเราก็แก้เรียบร้อยแล้ว (แต่ไม่ได้ถ่ายภาพ) เห็นไหม ถ้าใจมันรัก มันก็ยอมที่จะทำซ้ำ ทำซาก ปรับให้ถูกใจตัวเอง "ดีใจ ที่ตัวเองได้มีโอกาส ทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ขอบคุณ คุณสามี ที่ให้ความสนับสนุน"

วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ถั่วเขียวต้มน้ำตาล กับ อากาศหนาว แย่เลย

สวัสดีค่ะ เมื่อวานนี้ ทำถั่วเขียวต้มน้ำตาล ที่จริงไม่ค่อยอยากจะกินสักเท่าไร แต่ว่า ด้วยว่า ไม่มีอะไรจะทำ แล้วก็เห็นถั่วเขียว และจำได้ว่า มันปีกว่าแล้วน่ะ ไม่ใช้จะเสียของ
ผลของการกินถั่วเขียวต้มน้ำตาล ภายในหนึ่งชั่วโมง ต้องบอกว่า หนาวสุดๆ หนาวแบบว่า อบตัวในโต๊ะโคะตะซึ แล้วก็ยังเอาไม่อยู่ มือและปาก หน้าเย็นลงมากๆ รีบไปชงยาผงป้องกันไข้หวัด และติดแผ่นแม่เหล็ก(แก้หนาว) ก็แล้วยังออกอาการ สุดท้ายต้องรีบไปอาบน้ำแช่น้ำร้อนเกือบชั่วโมง แล้วกินข้าว แล้วก็ชงยาผงอีก ตื่นเช้ามายังคงอาการคล้ายไข้ ยังคงปวดหัวตุ๊บๆ ต้องระดม น้ำอุ่น ชาใส่ขิง ขับไข้กันเป็นการใหญ่ กว่าจะอาการดีขึ้นก็เล่นเอาเย็นอีกวัน คือ วันนี้ ตอนนี้
อาหารเมืองร้อน เมืองหนาว นั้นไม่เหมือนกัน ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เมื่อหลายปีก่อน เจอเหมือนกัน ซื้อมะม่วงดิบ น้ำปลาหวาน มาจากร้านขายของไทย ตอนนั้นก็ช่วงฤดูหนาว อาการคือ ปวดท้อง มันเย็นในท้อง สามีก็เคยเตือนว่า อาหารพืชเมืองร้อน อย่ากินในหน้าหนาว เห็นแก่ว่า จะเสียของ เลยเป็นอย่างนี้ เห็นทีจะต้องทิ้ง เจ้าถั่วเขียวต้มน้ำตาล ที่ยังเหลือเก็บไว้ในตู้เย็นเสียแล้ว

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2554

กับข้าว ญี่ปุ่น สีแบบนี้



ใครที่เคยเห็น อาหารญี่ปุ่น สีสวยๆ หากมาอยู่บ้านนอก คงจะต้องร้อง เคยดูละคร ตัวละครเอกยังมีความรู้สึก เปรียบเทียบแม่ตัวเอง กับ แม่ของเพื่อน แม่เธอนั้นแบบว่า บ้านนอกแท้ๆ ไม่ประยุกต์อาหาร อาหารไม่ได้น่ากินเลย ไม่มีสีสรร


อาหารไม่มีสีสรร นี้ อร่อยถูกปากเรา แถมดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ ไม่ต้องใช้น้ำมัน

ส่วนผสมมี

山菜(水煮)มีขายตามซุปเปอร์ค่ะ

สาหร่าย วาคะเมะ สด (ก้านกลาง)

เห็ดเข็มทอง

ปรุงรส ด้วย มิริน โชยุ และ น้ำส้ม ค่ะ ไม่ต้องใส่ ดาชิ (ผงชูรส ญ๊ปุ่น) หากใครชอบความหอมของน้ำมันงา ก็ใส่ตอนสุดท้ายก็ได้ค่ะ ได้อีกรสหนึ่ง

ปรุงรสอ่อนๆ กินได้เยอะค่ะ

แอปเปิ้ล พันธุ์ ฟุจิ มาแรงในตอนนี้



เห็นอะไรหรือไม่ค่ะ ทำไมเขาเรียก สัปปะรด ในภาษาอังกฤษว่า pineapple

พอทานแอปเปิล พันธุ์นี้ ในฤดูนี้ คือ ตั้งแต่กลางเดือน พฤษภาคม ถึงกลางเดือน ธันวาคม เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว แอปเปิ้ลจะมีน้ำข้างใน พอทานแล้วจะได้รับรสของ สัประรด คือ จะมีอมเปรี้ยว กลิ่นจางๆ คล้ายสัปปะรด (เป็นคนรับกลิ่นได้ดี) ทำให้นึกถึงคำว่า สัปปะรด ในภาษาอังกฤษ คนที่ทานแอปเปิ้ลไปคงจะได้รับรสนี้ก่อน แล้วไปตั้งชื่อ สัปปะรด ก็เป็นได้ (คิดเองค่ะ)

แต่ว่า แอปเปิ้ลที่มีน้ำนี้ เก็บได้ไม่นาน น้ำนั้นจะซึมออกมาทางผิวนอก เหนียวหนิบหนับเลยค่ะ

แอปเปิ้ล รสชาด แท้ๆ นั้น เนื้อจะแน่น ไม่ แบบ ซวกๆ นุ่มๆ แบบบ้านเรา เพราะว่า บ้านเรานั้นร้อน แอปเปิ้ลก็รักษาระดับน้ำภายในไว้ไม่ได้ เลยนุ่มๆ แต่เราก็คุ้นเคย เสียแล้ว และว่าอย่างนั้นอร่อย ก็เห็นจะไม่ผิดค่ะ ของมันคุ้นเคย เข้าใจ เข้าใจค่ะ