วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ยังไม่หายเสียดาย

กลับไปเมืองไทย ในระหว่างช่วงโกเดิ้นวีคของญี่ปุ่นคราวนี้ ไปแบบว่า กะว่า สบายๆ คือ ไม่เอาของฝากไปมาก และ ขากลับก็ไม่ซื้อของฝากมามากเช่นกัน
แต่ที่แน่ๆ เลย อยากได้น้ำพริก ฝีมือแม่ มากๆ ก็เลย โทรสั่งไปก่อนว่าให้ทำเตรียมไว้ เมื่อไปถึงก็อุ่นใจ แม่ทำเตรียมพร้อมไว้ให้แล้ว ไว้ให้มากินญี่ปุ่นนานๆ พร้อมกับ ฝากเพื่อนๆ คนไทย แม่นั้นคิดถึงคนไทยคนอื่นๆด้วยว่า คงอยากจะกินอาหารไทย เหมือนกับลูกสาวตัวเอง แม่เลยทำไว้ให้ถุงโตๆเลย
มีน้ำพริกตาแดง ซึ่งใส่ ปลาเนื้ออ่อนป่น ปลาในอ่างเก็บน้ำ ข้างบ้าน น้องชายหามาได้ แม่ก็ค่อยๆ เก็บย่างไว้ให้
น้ำพริกเผา
น้ำพริกปลาร้า
ทุกอย่างแม่ เผา แม่ปิ้ง ให้แห้งๆ เสมอ ตำมือ แม่กลัวว่าจะเป็นรา กินได้ไม่นาน แม่ใช้เวลา บวก กับ ความตั้งใจสูง ไม่ต้องบอก เพราะว่า เคยเห็นแม่ทำให้

ส่วนอีกอย่างที่แม่ ทำมาฝาก แม่ญี่ปุ่น พร้อมกับ คุณน้า ซึ่งแม่นึกถึงเสมอมา ขากลับจากไปเที่ยวทะเลกัน แม่บอกให้ลุงแวะ ซื้อ ลอนตาล ข้างทาง รอนานมากๆ แต่ด้วยแม่เป็นแม่ค้ามาก่อน ก็คุยกันไป กินตาล น้ำตาลสดบ้าง ในช่วงระหว่างรอเขาแฉะ
แม่บอกว่า จะเชื่อมไม่หวาน ให้มาฝาก แม่ญี่ปุ่น และ น้า และ ปู เอาไปกินบ้าง "ดีใจมากๆ รอเวลากลับญี่ปุ่นจะกินฝีมือแม่"

และแล้ว ก็ถึงสนามบิน เมื่อตอนเช็คอิน เจ้าหน้าที่ถามถึงของที่เป็นน้ำๆ ก็นึกขึ้นได้ ซื้อเงาะกระป๋อง เล็กๆ มาฝากแม่ญี่ปุ่น ๒ กระป๋อง เขาก็ขอดู ก็บอกว่า "ต้องโหลดกระเป๋า ลงไปกับเครื่อง" ก็เลยโหลดกระเป๋าของตัวเองลงไป
ส่วนกระเป๋าที่สามีถือ ก็ไม่ได้ตรวจดูว่า มีอะไร เพราะไม่คิดว่า ตัวเองเอาของผิดมา ไม่มีของสด ไม่มีแบบที่ญี่ปุ่นเขาบอกว่า เข้าประเทศไม่ได้ ก็สบายใจ

แต่ผลปรากฏว่า กระเป๋าสามี นั้นเครื่องสแกน มันร้อง ให้ตรวจ
เจ้าหน้าที่ก็ตรวจดู พอเจอน้ำพริก ๒ ถุง น้าพริกเผา กับ ตาแดง คุณผู้หญิง ก็หยุดค้นแล้ว พอแล้ว บอกว่า นี่แหล่ะ ที่เอาไปไม่ได้ ตกใจ แทบช๊อก อยากจะร้องไห้ออกมาเลย ถามว่า เอาไปไม่ได้จริงๆ หรือ เขาบอกว่า เขียนเอาไว้แล้ว จะออกไป เอาโหลดลงเครื่อง เขาก็บอกว่า เข้ามาแล้ว ออกกลับไปไม่ได้
บอกตรงๆ ว่า มันไม่เหมือนลักษณะของเหลว หรือ ครีมเลย เพราะว่า แม่เขาทำแบบค่อนข้างแห้งจริงๆ

เดินไปคิดไป พอถึง บอร์ด ที่จะไปรอเครื่อง มีตรวจอีกแล้ว เนื่องจากเป็นสายการบิน ของ เอเอ็นเอ ที่ร่วมกับ สายการบิน ยูเอ ที่จะบินไปสหรัฐ เขาก็เข้มงวดอีก ซึ่งก็ไม่คิดมาก่อน แต่ก็คิดว่า ไม่เป็นไร เพราะว่าตัวเองไม่ได้เอาอะไรผิดไป
คราวนี้ เธอเจอ ตาลเชื่อม ซึ่งออกลักษณะน้ำหน่อย เธอก็บอกว่า อันนี้ เอาไปไม่ได้ ยึดอีก
นึกสิ ใจนี้ ห่อเหี่ยว เลย
พลอยให้คิดเลยว่า ไอ้ที่เครื่องมันร้องให้ตรวจ เมื่อด่านแลกนี้ เป็นเพราะ ตาลเชื่อมถุงนี้หรือเปล่า
เมื่อมาถึงญี่ปุ่น ถามเพื่อนที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อนก็บอกว่า น้ำพริกของแม่พี่ปู นั้น ไม่น่าจะถูกยึด
เฮ้อ คงจะอร่อยกันไปเลย บนความเศร้าใจของแม่และลูก คู่นี้

สุดท้าย เมื่อถึงบ้านญี่ปุ่นแล้ว ก็เจอน้ำพริกปลาร้า ในกระเป๋าที่โหลด รีบโทรหาแม่เลย บอกว่า มันมีอีกถุงแม่ ที่ยังอยู่ ทั้งคู่ดีใจมากๆ ถุงนี้ได้เผื่อแผ่ ไปให้คนอื่นๆ บ้างคนละนิดคนละหน่อย ได้ให้หายคิดถึงเมืองไทยกัน หรือพูดอีกที ให้ชื่นใจ มีกำลังที่จะต่อสู้ในต่างแดน

ไม่มีความคิดเห็น: