วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ปวดเท้า สาเหตุอาจจะ...แก้โดยวิธีนี้

อาจจะเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่คาดคิดว่าสาเหตุหนึ่งนั้นคือ การที่เท้าเย็น โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในญี่ปุ่น หรือคนไทยที่สงสัยกันว่า ทำไมญี่ปุ่น จึงชอบใส่ถุงเท้า ถึงแม้จะหน้าร้อน ที่เรานั้นร้อนจนแสนจะทนได้ แต่ก็ไม่เหงื่อไหลหยดย้อย แบบคนญี่ปุ่น เพราะว่า เราไม่ใส่ถุงเท้านั้นไงล่ะ
และแล้ว เราก็ทนเจ็บปวดเท้า แสนจะร้าวราน โดยเฉพาะในตอนกลางคืน เวลาที่ต้องตื่นไปเข้าห้องน้ำ อย่าบอกเลยว่า ไม่รู้จะวางเท้าลงกับพื้นอย่างไร มันปวดไม่รู้ว่าปวดที่ไหนกันแน่ แต่พอกลางวัน มันก็ค่อยๆ เลือนหายไป ทำให้เราไม่รู้ว่ามันปวดอย่างไรกันแน่ หาสาเหตุ จากเวปซ์ไทย ก็ได้คำแนะนำว่า ต้องเปลี่ยนรองเท้า เลือกให้เหมาะกับเท้า เราก็เปลี่ยน ทั้งแพงทั้งถูก เสริมด้วยแผ่นรองรับเท้า (ทั้งแพง ทั้งถูก ดีกว่าไปหาหมอน่ะ เพราะเชื่อแน่แท้ว่าเราไม่ได้เป็นโรค) เราก็ลองโน่นลองนี่ เป็นเวลาจำไม่ได้ แต่ว่า ไม่ ๒ ปี ก็ ๓ ปี ทนไม่ไหว ตื่นมาต้องพาหมาไปเดิน เอ้าติดแผ่นกันปวดก็แล้วกัน เวลาเร่งรีบ
จนปีนี้ ที่ทำงานมีคนเห็นเท้าเรา (เพราะว่าเราไม่ใส่ถุงเท้า) เขาก็ทักว่า ทำไมไม่ใส่ถุงเท้า เราก็บอกว่า มันร้อนน่ะ เราก็บอกว่า 体冷えちゃうよ。คือร่างกายมันจะเย็น (เย็นแล้วมันจะเกิดโรคได้ง่าย โดยเฉพาะโรคปวดเมื่อยมาก่อนเลย) หรือ อย่างนั้นหรือ
ลองเชื่อเขาสิ เพราะเขาเป็นคนท้องถิ่น เขาบอกว่า ที่ญี่ปุ่นนั้น มันเย็น (คิดเลยว่า จริงแน่ะ เพราะเขาบอกว่า คนที่ยืนทำงาน โดยเฉพาะที่ซุปเปอร์ พวกจนท. คิดเงิน พวกนี้ จะร่างกายไม่ดี เนื่องจากเท้าจะเย็น) พื้นดินที่ญี่ปุ่นนี่ก็จะเย็นเหมือนกัน
และแล้ว เราก็เริ่มนึกได้ ว่าที่เราปวดนี่ตอนกลางคืน แต่เราก็ใส่ถุงเท้านอนแล้วนี่ คราวนี้
ลองใส่ ๒ ชั้นเลย ใส่มันสองคู่เลย ผลคือ ว่า ปวดน้อยลง แน่นอนแล้ว เราต้อง แบบว่า เท้าเย็น (มือก็เย็น อาจจะเป็นเรื่องของเลือดลมด้วย อันนี้) แก้แบบ แก้ได้ด้วยตัวเองก่อนเลย ต่อไปนี้ สองชั้นเลย แต่ที่ได้ดี ก็ แบบถุงเท้า สวมทั้งห้านิ้ว ไว้ชั้นแรก
มันรู้สึกดีขึ้น แฮะ จึงอยากบอกต่อค่ะ
ขั้นต่อไป ลองไป 低温 サウナー คือ ซาวน่า ที่อุณหภูมิ ต่ำ คือ ปกติแล้ว ซาวน่า จะอุณหภูมิ ๙๐ องศาเซลเซียส แต่ที่บอกว่า ซาวน่า อุณหภูมิต่ำ นี้ จะ ๖๐ องศาเซลเซียส ที่นะงะโนะ ที่ใกล้กับที่นี่ นี่จะมีที่ องเซน ที่ชื่อว่า まきば湯 จะมีหินจากหิมะละยะ และก็หินจากเกาหลี
ลองเอาขาไปวางใกล้ๆ กำแพงหิน ค่อยๆ อบขา ผลปรากฏว่า เท้าซ้ายหายสนิท ตอนนนี้ จะคงเหลือก็แต่เท้าขวา ที่ยังปวดบริเวณส้น อันนี้ก็ยังดี กว่า ปวดไปทั้งเท้า เหลือเอาไว้ ให้เราคิดอีกต่อไป แต่ว่า จะรีบร้อนก็คงไม่ใช่ เพราะเราก็เอามันไว้กับเรา เสียหลายปี
จึงเขียนมาเพื่อเล่า ประสบการณ์เกี่ยวกับตัวเอง เผื่อท่านที่เป็นเหมือนเรา จะได้ลองพลิกแผลง ทำการทดลองกับตัวเอง สวัสดี.....

ไม่มีความคิดเห็น: